บริการซ่อมบำรุงอาคาร: รู้ทันปัญหา ไฟตก ไฟกระชาก มีสาเหตุจากอะไร?

บริการซ่อมบำรุงอาคาร: รู้ทันปัญหา ไฟตก ไฟกระชาก มีสาเหตุจากอะไร? ปัญหาของวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ไฟฟ้าตก ไฟเกิน ไฟกระชาก นอกจากจะสร้างความรำคาญใจให้เราแล้ว ยังส่งผลเสียต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้านเช่นกัน ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ปัญหาทั้ง 3 อย่างนี้ มีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง

1. ไฟตก

ปัญหาไฟฟ้าตก มีต้นเหตุจากแรงดันไฟฟ้าที่มาถึงเรา มีค่าต่ำกว่า 220V ส่งผลให้ไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าได้เพียงพอ อาการที่สังเกตได้ก็คือ ไฟฟ้าจะติด ๆ ดับ ๆ นอกจากนี้ ยังมีสาเหตุอื่น ๆ พ่วงด้วย ไม่ว่าจะเป็น

– เกิดการแย่งใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะบริเวณหมู่บ้านหรือชุมชนที่มีบ้านหลายหลัง ต้องแย่งใช้ไฟฟ้าจนทำให้เกิดปัญหา ไฟตกบ่อย
– อยู่ห่างไกลจากสถานีจ่ายไฟ ทำให้แรงดันไฟฟ้าลดลงตามระยะทางที่ห่างออกมา
– ฝนตกหนัก หรือพายุเข้า ส่งผลให้ไฟตกและไฟดับตามมา
– มีการใช้ไฟจากเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีมอเตอร์หมุนรอบสูง
– สายไฟภายในบ้านเกิดการชำรุด
– มีกระแสไฟฟ้าไหลลงดิน
– ตัวนำไฟฟ้าภายในบ้านหรืออาคารเกิดปัญหา เช่น การขัดข้อง หรือไฟช็อต

2. ไฟเกิน

กรณีที่ไฟเกิน นั่นก็คือ ในวงจรมีแรงดันไฟฟ้าที่ส่งมามากกว่า 220V โดยจะเกิดแค่ระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ไม่ส่งผลร้ายแรงหรือส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า เหมือนกับปัญหาไฟฟ้าตกหรือไฟกระชาก

3. ไฟกระชาก

เกิดจากแรงดันไฟฟ้าที่ส่งมาแบบขาด ๆ เกิน ๆ ในช่วงขณะหนึ่ง ซึ่งปัญหาไฟกระชากจะส่งผลเสียกับเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทที่ใช้ความต้านทานหรือขดลวด เช่น เตารีด หลอดไฟ กาต้มน้ำร้อน หม้อหุงข้าว โดยสาเหตุมีหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น

– การเดินสายไฟที่ผิดพลาด หรือผู้ที่เดินสายไฟไม่มีความชำนาญ
– ระบบไฟฟ้ามีความผันผวน
– สภาพอากาศแปรปรวน เช่น ฝนตก ฟ้าร้อง พายุเข้า
– การเปิด-ปิด เครื่องใช้ไฟฟ้าหลาย ๆ อย่างในเวลาไล่เลี่ยกัน เช่น เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น

สังเกตอย่างไร ว่าไฟฟ้าบ้านเราตก

– หลอดไฟติด แต่ความสว่างน้อยลงจนเห็นได้ชัด
– หลอดไฟไม่ค่อยติด มีอาการกะพริบถี่ ๆ หรือบางครั้งเปิดติดยาก ต้องเปิด-ซ้ำ หลายรอบ
– ปั๊มน้ำที่บ้านไม่ทำงาน หรืออุปกรณ์ที่มีการใช้รอบมอเตอร์สูงไม่ทำงาน
– ปัญหาเครื่องปรับอากาศไม่เย็น เย็นช้า หรือไม่ทำงาน